เรื่องภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า โยธ ทีฆํ เป็นต้น
วันหนึ่ง พราหมณ์คนหนึ่งในกรุงสาวัตถี เปลื้องผ้าห่ม วางผึ่งลมไว้นอกบ้าน พระอรหันต์ขีณาสพรูปหนึ่ง กำลังจะเดินกลับวัด เห็นผ้านั้น มองไปมองมาไม่เห็นใคร ก็เลยคิดว่าเป็นผ้าที่ไม่มีเจ้าของ จึงได้อธิษฐานผ้าเป็นบังสุกุล ถือเอาไป พราหมณ์มองลงมาทางหน้าต่างเห็นพระเถระหยิบเอาผ้าของคนไปก็ได้วิ่งไล่ตาม ด่าพลางเข้าไปหา กล่าวว่า “ สมณะโล้น ท่านเอาผ้าของข้าพเจ้าไปทำไม” พระเถระ กล่าวว่า “ฉันไม่เห็นใคร จึงฉวยเอาผ้านี้มาด้วยสำคัญว่าเป็นผ้าบังสุกุล ท่านจงรับผ้านี้คืนเถิด”ว่าแล้ก็คืนผ้าผืนนั้นให้แก่พราหมณ์ในทันที
เมื่อกลับไปถึงวัดแล้ว พระเถระได้เล่าเรื่องนี้ให้ภิกษุทั้งหลายฟัง พระภิกษุเหล้านั้นได้ถามท่านในเชงเยาเย้ยว่า”ผ้าผืนนั้น ยาวหรือสั้น หยาบหรือละเอียด” พระเถระกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย ผ้านั้นจะยาวหรือสั้น หยาบหรือละเอียดก็ช่างเถิด ความอาลัยในผ้านั้นของผมไม่มี ผมหยิบเอมาด้วยความสำคัญว่าผ้าบังสุกุลต่างหาก”
ภิกษุทั้งหลายฟังคำนั้นแล้ว นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระศาสดาว่า “พระเจ้าข้า ภิกษุนั่น กล่าวคำไม่จริง อวดอ้างว่าเป็นพระอรหันต์ พระศาสดาตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั่น กล่าวคำจริง ธรรมดาพระขีณาสพทั้งหลาย ย่อมไม่ถือเอา สิ่งของๆคนเหล่าอื่น”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
โยธ ทีฆํ วา รสฺสํ วา
อณํ ถูลํ สุภาสุภํ
โลเก อทินฺนํ นาทิยติ
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหมณํ ฯ
ผู้ใด ไม่ถือเอาของยาวของสั้น
น้อยหรือใหญ่ งามหรือไม่งาม
อันเขาไมได้ให้แล้ว ในโลกนี้
เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments