เรื่องพระสารีบุตรเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตรเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อาสา ยสฺส เป็นต้น
ในกาลครั้งหนึ่ง พระสารีบุตรเถระ พร้อมด้วยภิกษุบริวาร 500 รูป ได้ไปเข้าจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่ง ใกล้หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง เมื่อออกพรรษาปวารณาแล้ว พระสารีบุตรเถระต้องการมอบจีวรแก่ภิกษุหนุ่มและสามเณรทั้งหลาย ท่านจึงบอกกับภิกษุทั้งหลายว่า หากมีคนมาถวายจีวร ก็ให้ส่งจีวรเหล่านั้นไปให้ท่าน หรือว่าแจ้งได้ท่านได้รู้ แล้วก็ออกจากวัดแห่งนั้นไปเข้าเฝ้าพระศาสดา ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมสภาว่า “ถึงทุกวันนี้ ตัณหาของพระสารีบุตรเถระ ชะรอยจะยังมีอยู่ เพราะพระเถระสั่งไว้แบบนั้น” พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามถึงหัวข้อสนทนานั้น แล้วตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ตัณหา ย่อมไม่มีแก่บุตรของเรา แต่เธอกล่าวอย่างนั้น ก็ด้วยคิดว่า พวกมนุษย์จะได้ทำบุญกัน และพวกภิกษุหนุ่มและสามเณรจะได้มีจีวรใช้” จากนั้น พระศาสดาตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
อาสา ยสฺส น วิชฺชนฺติ
อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ
นิราสาสํ วิสํยุตฺตํ
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ ฯ
ความหวังของผู้ใด ไม่มี
ในโลกนี้และโลกหน้า
เราเรียกผู้นั้นว่า ซึ่งไม่มีความหวัง
พรากกิเลสได้แล้ว
ว่า เป็นพราหมณ์.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments