เรื่องภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่ ๒
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่ ๒ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า หิตฺวา รติญฺจ เป็นต้น
ในสมัยหนึ่ง ดารานักแสดงคนหนึ่ง ออกตระเวนไปเปิดแสดงร้องรำทำเพลงไปตามถนนหนทาง แล้วได้มีโอกาสได้ไปฟังธรรมของพระศาสดา หลังจากได้ฟังธรรมแล้วก็ได้เข้าอุปสมบทเป็นภิกษุ และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ เมื่อพระอดีตดารานักแสดงนั้นออกไปบิณฑบาตกับภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ภิกษุทั้งหลายเห็นบุตรของดารานักแสดงคนหนึ่ง จึงได้ถามพระอดีตดารานักแสดงนั้นว่า ยังมีความเยื่อใยในอาชีพการแสดงอยู่หรือไม่ เมื่อพระอดีตดารานักแสดงตอบว่า “ไม่มีแล้ว” จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระศาสดาว่า พระอดีตดารานี้อวดอ้างตนว่าเป็นพระอรหันต์ด้วยความไม่จริง พระศาสดาได้ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย บุตรของเราละความยินดีและความไม่ยินดีได้แล้ว ดำรงอยู่”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
หิตฺวา รติญจ อรติญฺจ
สีติภูตํ นิรูปธึ
สพฺพโลกาภิภุ วีรํ
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ ฯ
เราเรียกบุคคลนั้น
ซึ่งละความยินดีและความไม่ยินดีได้แล้ว
ผู้เย็น ไม่มีอุปธิ
ครอบงำโลกทั้งปวง ผู้แกล้วกล้า
ว่า เป็นพราหมณ์.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ขนเป็นอันขาด บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments