เรื่องภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่ ๑
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่ ๑ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า หตฺวา มานุสกํ เป็นต้น
ในสมัยหนึ่ง ดารานักแสดงคนหนึ่ง ออกตระเวนไปเปิดแสดงร้องรำทำเพลงไปตามถนนหนทาง แล้วได้มีโอกาสได้ไปฟังธรรมของพระศาสดา หลังจากได้ฟังธรรมแล้วก็ได้เข้าอุปสมบทเป็นภิกษุ และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ เมื่อพระอดีตดารานักแสดงนั้นออกไปบิณฑบาตกับภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ภิกษุทั้งหลายเห็นบุตรของดารานักแสดงคนหนึ่ง จึงได้ถามพระอดีตดารานักแสดงนั้นว่า ยังมีความเยื่อใยในอาชีพการแสดงอยู่หรือไม่ เมื่อพระอดีตดารานักแสดงตอบว่า “ไม่มีแล้ว” จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระศาสดาว่า พระอดีตดารานี้อวดอ้างตนว่าเป็นพระอรหันต์ด้วยความไม่จริง พระศาสดาได้ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย บุตรของเราก้าวล่วงกิเลสเครื่องประกอบทั้งปวงได้แล้ว”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
หิตฺวา มานุสกํ โยคํ
ทิพฺพํ โยคํ อุปจฺจคา
สพฺพโยควิสํยุตฺตํ
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ ฯ
ผู้ใด ละกิเลสเครื่องประกอบอันเป็นของมนุษย์
ล่วงกิเลสเครื่องประกอบอันเป็นของทิพย์ได้แล้ว
เราเรียกผู้นั้น ซึ่งพรากกิเลสเครื่องประกอบทั้งปวงได้แล้ว
ว่า เป็นพราหมณ์.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments