เรื่องอาคันตุกภิกษุ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุผู้อาคันตุกะหลายรูป ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า นครํ ยถา เป็นต้น
พวกภิกษุที่เข้าจำพรรษาอยู่ในปัจจันตนคร(เมืองชายแดน) ในเดือนแรกของการจำพรรษา อยู่อย่างปกติสุข มีชาวบ้านให้ความอุปถัมภ์เป็นอย่างดี แต่ในระหว่างเดือนที่สอง บ้านเมืองถูกปล้นสะดมและชาวบ้านถูกจับเป็นตัวประกัน พวกชาวบ้านจึงต้องช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์บ้านเมือง และสร้างป้อมปราการ ไม่สามารถดูแลเรื่องปัจจัยต่างๆของภิกษุทั้งหลายได้เท่าที่ควร เมื่อถึงออกพรรษาและปวารณาแล้ว พวกภิกษุเหล่านี้ได้เดินทางไปเฝ้าพระศาสดา ศาสดาตรัสถามว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพากันอยู่สบายดีหรือ ?” ได้กราบทูลถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ทรงทราบ พระศาสดาตรัสว่า “ช่างเถอะ ภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าได้คิดเลย ธรรมดาว่าความอยู่เป็นสุขสำราญตลอดกาลเป็นนิตย์ อันบุคคลหาได้ยาก ธรรมดาว่าภิกษุ รักษาอัตภาพนั่นแหละ เหมือนกับพวกมนุษย์เหล่านั้น คุ้มครองนคร ฉะนั้น ย่อมควร”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
นครํ ยถา ปจฺจนฺตํ
คุตฺตํ สนฺตรพาหิรํ
เอวํ โคเปถ อตฺตานํ
ขโณ โว มา อุปจฺจคา
ขณาตีตา หิ โสจนฺติ
นิรยมฺหิ สมปฺปิตาฯ
ท่านทั้งหลายควรรักษาตน
เหมือนกับพวกมนุษย์ป้องกันปัจจันตนคร
ทั้งภายในและภายนอก ฉะนั้น
ขณะอย่าเข้าไปล่วงท่านทั้งหลายเสีย
เพราะว่าชนทั้งหลายผู้ล่วงเสียซึ่งขณะ
เป็นผู้เบียดเสียดกันในนรก เศร้าโศกอยู่.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ภิกษุเหล่านั้นเกิดความสังเวช บรรลุอรหัตตผล.
No comments:
Write comments