เรื่องปัญหาของพระอานนทเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภปัญหาของพระอานนทเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า สพฺพปาปสฺส อกรณํ เป็นต้น
ในสมัยหนึ่ง พระอานทเถระ นั่งในที่พักกลางวัน คิดว่า พระศาสดาตรัสบอกเรื่องราวของพระพุทธเจ้า 7 พระองค์ทุกอย่าง คือ พระชนนี พระชนก การกำหนดพระชนมายุ ไม้ที่ตรัสรู้ สาวกสันนิบาต อัครสาวก อุปัฏฐาก แต่มิได้ตรัสบอกในเรื่องอุโบสถ อุโบสถของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะเหมือนกันหรือไม่ จึงเข้าไปทูลถามพระศาสดา ก็ได้รับคำตอบว่า พระพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี ได้ทรงกระทำอุโบสถในทุก 7 ปี เพราะพระโอวาทที่พระองค์ทรงประทานแล้วในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ 7 ปี พระพุทธเจ้า พระนามว่าสิขีและเสสภู ทรงกระทำอุโบสถในทุกๆ 6 ปี เพราะพระโอวาทที่พระพุทธเจ้า 2 พระองค์นั้น ทรงประทานในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ 6 ปี พระพุทธเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ และ โกนาคมนะ ได้ทรงกระทำอุโบสถทุกๆ ปี เพราะพระโอวาทที่พระพุทธเจ้า 2 พระองค์นั้น ทรงประทานในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ปีหนึ่งๆ พระพุทธจ้า พระนามว่ากัสสปะ ได้ทรงกระทำอุโบสถทุกๆ 6 เดือน เพราะพระโอวาทที่พระองค์ทรงประทานในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ 6 เดือน ส่วนโอวาทของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น เป็นอย่างนี้
แล้วพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท 3 พระคาถานี้ว่า
สพฺพปาปสฺส อกรณํ
กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ
เอตํ พุทฺธานสาสนํ ฯ
ความไม่ทำบาปทั้งสิ้น
ความยังกุศลให้ถึงพร้อม
ความทำจิตของตนให้ผ่องใส
นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา
นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา
น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโต ฯ
ความอดทนคือความอดกลั้น
เป็นธรรมเผาบาปอย่างยิ่ง
ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ย่อมกล่าวนิพพานว่าเป็นเยี่ยม
ผู้ทำร้ายผู้อื่น ไม่ชื่อว่าบรรพชิต
ผู้เบียดเบียนผู้อื่นอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ
อนูปวาโท อนูปฆาโต
ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร
มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ
ปนฺตญฺจ สยนาสนํ
อธิจิตฺเต จ อาโยโค
เอตํ พุทธานสาสนํฯ
ความไม่กล่าวร้าย 1 ความไม่ทำร้าย 1
ความสำรวมในพระปาติโมกข์ 1
ความเป็นผู้รู้ประมาณ ในอาหาร1
ที่นอนที่นั่งอันสงัด 1
ความประกอบโดยเอื้อเฟื้อในอธิจิต 1
นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments