เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า โย ทุกฺขสฺส เป็นต้น
ในกาลครั้งหนึ่ง ทาสของพราหมณ์คนหนึ่ง ได้หนีออกจากบ้านพราหมณ์ไปบวช และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่พระอดีตทาสรูปนี้กำลังออกเดินบิณฑบาตอยู่นั้น พราหมณ์นั้นได้มาพบเข้า จึงเข้าไปยึดจีวรเอาไว้ เมื่อพระศาสดา เสด็จกลับมาตรัสถาม ก็ได้กราบทูลว่า พระภิกษุรูปนี้เป็นอดีตทาสของเขามาก่อน เมื่อพระศาสดาตรัสว่า “ภิกษุนี้ปลงภาระ(คือขันธ์ 5) ได้แล้ว” พราหมณ์ตีความว่า ว่าพระภิกษุอดีตทาสรูปนี้ได้เป็นพระอรหันต์แล้ว ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าตนเข้าใจถูกต้องจึงกราบทูลถามว่า เป็นความจริงหรือไม่ที่พระภิกษุหนุ่มรูปนี้เป็นพระอรหันต์แล้ว พระศาสดาตรัสว่า “ถูกแล้ว พราหมณ์ พระภิกษุรูปนี้ เป็นผู้มีภาระอันปลงแล้ว”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ
อิเธว ขยมตฺตโน
ปนฺนภารํ วิสํยุตฺตํ
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ ฯ
ผู้ใด ในศาสนานี้แล
รู้ชัดความสิ้นไปแห่งทุกข์ของตน
เราเรียกผู้นั้น ซึ่งมีภาระอันปลงแล้ว
ผู้พรากได้แล้วว่า เป็นพราหมณ์.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง พราหมณ์นั้นบรรลุโสดาปัตติผล พระธรรมเทศนา มีประโยชน์ แม้แก่ชนผู้มาประชุมกัน.
No comments:
Write comments