KEATHADHAMMABOTHTHAI

nousambath855@gmail.com

เรียบเรียงโดย จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ keathadhammaboththai.blogspot.com

อ่านเรื่องในคาถาธรรมบท ๓๐๒ เรื่อง บล็กนี้เรียบเรียงโดย ภิกฺขุ จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ ขออนุโมทนาบุญทุกย่าง ! Email: nousambath855@gmail.com

July 15, 2017

๑๑.พระสัปปทาสเถระ

Posted by   on Pinterest

พระสัปปทาสเถระ



 พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสัปปทาสเถระ ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 112

ครั้งหนึ่ง มีภิกษุรูปหนึ่งมีความเบื่อหน่ายที่จะครองเพศเป็นภิกษุ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกว่าเป็นการไม่สมควรที่ตนจะสึกออกไปเป็นคฤหัสถ์ จึงมีความคิดว่าตนเองควรจะฆ่าตัวตายในขณะที่ยังมีเพศเป็นพระภิกษุนี่แหละ หลังจากที่คิดเช่นนี้แล้ว อยู่มาวันหนึ่งก็ได้พยายามจะฆ่าตัวตายโดยล้วงมือเข้าไปหม้อที่เขาขังงูเอาไว้โดยจะให้งูกัดตาย แต่งูไม่ยอมกัดเพราะในอดีตชาติงูตัวนี้เคยเป็นทาสของภิกษุมาก่อน จากเหตุการณ์ครั้งนี้นี่เอง พระเถระจึงได้นามว่า พระสัปปทาสเถระ พระเถระได้พยายามฆ่าตัวตายเป็นครั้งที่สอง โดยกะจะเอามีดโกนเฉือนคอของตนเองให้ตาย แต่ขณะที่จ่อมีดโกนเข้าที่ก้านคออยู่นั้น ก็ได้ใคร่ครวญถึงศีลของตน ตั้งแต่อุปสมบทมา เห็นว่าตนมีศีลบริสุทธิ์ “ดังดวงจันทร์ปราศจากมลทิน และดังดวงมณีที่ขัดดี” เกิดปีติปราโมทย์ซาบซ่าทั่วร่างกาย เมื่อข่มปีติได้แล้ว ก็ได้เจริญวิปัสสนา จนได้บรรลุพระอรหัตผล พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ท่านจึงถือมีดโกนเดินเข้าไปในวัด

เมื่อเดินไปถึงที่วัดแล้ว พระภิกษุอื่นๆเห็นจึงถามท่านว่า ท่านไปไหนมาและทำไมถึงถือมีดโกนเดินมาอย่างนี้ ท่านบอกว่าท่านกะฆ่าตัวตายด้วยการใช้มีดโกนเชือดคอ เมื่อพวกพระถามว่าแล้วทำไมถึงไม่ยอมเชือดคอให้ตายเสียล่า ท่านได้ตอบว่า “แต่แรกผมก็ตั้งใจว่าจะเอามีดโกนนี้ตัดคอของคนเอง แต่ตอนนี้ได้ตัดกิเลสเสียสิ้นด้วยมีดโกนคือญาณ”

พวกภิกษุไม่เชื่อในคำกล่าวอ้างของท่าน และได้เข้าไปเฝ้าพระศาสดาทูลถามว่า “พระเจ้าข้า ภิกษุรูปนี้อ้างว่าตนได้บรรลุอรหัตแล้ว ในขณะที่กำลังเอามีดจ่อคอจะฆ่าตัวตาย เป็นไปได้ละหรือที่ท่านจะบรรลุพระอรหัตได้ในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนั้น” พระศาสดาตรัสว่า “เป็นอย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุผู้ปรารภความเพียร ยกเท้าวางบนพื้น เมื่อเท้ายังไม่ทันถึงพื้นเลย พระอรหัตตมรรคก็ได้เกิดขึ้น แท้จริง ความเป็นอยู่แม้เพียงชั่วขณะของท่านผู้ปรารภความเพียร ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ 100 ปีของบุคคลผู้เกียจคร้าน”

จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 112 ว่า

      โย จ วสฺสสตํ ชีเว
      อปสฺสํ อุทยพฺพยํ
      เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
      ปสฺสโต อุทยพฺพยํฯ
      ผู้ไม่เห็นความเกิดดับ

      ถึงจะมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี
      สู้ผู้ที่เห็นความเกิดดับ
      มีชีวิตอยู่แค่วันเดียว ไม่ได้.

 เมื่อสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น.

No comments:
Write comments