เรื่องพระวักกลิเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพระวักกลิเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ เป็นต้น
พระวักกลเถระ เป็นพราหมณ์อยู่ที่กรุงสาวัตถี วันหนึ่ง ไปพบพระศาสดาขณะกำลังเสด็จออกบิณฑบาตอยู่ในเมือง ก็เกิดความประทับใจในรูปสมบัติของพระศาสดา ในขณะเดียวกันก็เกิดมีความรักและความเคารพเป็นอย่างมากในพระศาสดา จึงได้ไปขอบวชเป็นภิกษุอยู่ใกล้ๆกับพระศาสดา เมื่อบวชเป็นภิกษุแล้ว พระวักกลิก็จะคอยอยู่ใกล้ชิดพระศาสดา ไม่สนใจทำหน้าที่ต่างๆของภิกษุ และไม่ยอมปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน พระศาสดาได้ตรัสกับพระวักกลิว่า “ดูก่อนวักกลิ ไม่มีประโยชน์อะไรกับการที่เธอมัวมามองดูกายเน่านี้ วักกลิ คนใด เห็นธรรม คนนั้น ชื่อว่าเห็นเรา(ตถาคต) คนใด เห็นเรา(ผู้ตถาคต) คนนั้นชื่อว่าเห็นธรรม” แม้พระศาสดาจะตรัสสอนอย่างนี้ แต่พระวักกลิก็ไม่อาจจะเลิดมองดูพระศาสดาได้ พระศาสดาทรงดำริว่า ควรจะหาทางให้พระวักกลิเกิดความสังเวช ก็จะส่งผลให้พระวักกลิตรัสรู้ธรรมได้ อยู่มาวันหนึ่ง เป็นช่วงจะเข้าพรรษา พระศาสดาเสด็จไปที่กรุงราชคฤห์ ในวันเข้าพรรษา ได้ทรงขับไล่ท่านด้วยพระดำรัสว่า”วักกลิ เธอจงหลีกไป” ท่านคิดว่า พระศาสดาคงจะไม่รับสั่งกับท่านอีกแล้ว จึงเกิดความเสียใจ ไปขึ้นภู เขาคิชฌกูฏ โดยคิดว่าจะกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย พระศาสดาทรงเห็นเหตุการณ์ด้วยพระจักษุทิพย์ ได้แผ่พระรัศมีไปปรากฏอยู่เบื้องหน้า เมื่อเห็นพระศาสดาเสด็จมาอยู่เบื้องหน้า พระวักกลก็หายเศร้าโศก และเพื่อจะสร้างปีติให้บังเกิดขึ้นแก่พระวักกลิ
พระศาสดาจึงตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ
ปสนฺโน พุทฺธสาสเน
อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ
สงฺขารูปสมํ สุขํ ฯ
ภิกษุผู้มากด้วยปราโมทย์
เลื่อมใสแล้วในพระพุทธศาสนา
พึงบรรลุสันตบท
เป็นที่เข้าไปสงบสังขาร เป็นสุข.
ครั้นพระศาสดาตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้จบลงแล้ว ก็ทรงเหยียดพระหัตถ์ ไปตรัสกับพระวักกกลิต่อไปว่า “มาเถิด วักกลิ เธออย่ากลัว จงแลดูพระตถาคต เราจักยกเธอขึ้น เหมือนบุคคลพยุงช้างตัวจมอยู่ในเปือกตมฉะนั้น มาเถิด วักกลิ เธออย่ากลัว จงแลดูพระตถาคต เราจักยกเธอขึ้น เหมือนบุคคลที่ช่วยพระจันทร์ที่ถูกราหูจับ ฉะนั้น”
พระวักกลิ เกิดปีติอย่างแรงกล้า ว่าท่านได้เห็นพระศาสดาแล้ว ถึงกับตัวลอยขึ้นสู่อากาศ เมื่อท่านข่มปีติได้แล้ว ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย.
No comments:
Write comments