KEATHADHAMMABOTHTHAI

nousambath855@gmail.com

เรียบเรียงโดย จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ keathadhammaboththai.blogspot.com

อ่านเรื่องในคาถาธรรมบท ๓๐๒ เรื่อง บล็กนี้เรียบเรียงโดย ภิกฺขุ จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ ขออนุโมทนาบุญทุกย่าง ! Email: nousambath855@gmail.com

July 17, 2017

๑๐.เรื่องเมณฑกเศรษฐี

Posted by   on Pinterest

เรื่องเมณฑกเศรษฐี



พระศาสดา  เมื่อทรงอาศัยภัททิยนคร  ประทับอยู่ในชาติยาวัน     ทรงปรารภเมณฑกเศรษฐี  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  สุทสฺสํ  วชฺชมญฺเญสํ  เป็นต้น

ในกาลครั้งหนึ่ง   ในระหว่างเสด็จจาริกสู่แคว้นอังคะและแคว้นอุตตระ   พระศาสดาทรงเห็นอุปนิสัยที่จะบรรลุโสดาปัติผลของบุคคล 6  คนเหล่านี้ คือ 1. เมณฑกเศรษฐี  2.ภรรยาของเศรษฐี  ชื่อนางจันทปทุมา  3. บุตรชื่อธนัญชัยเศรษฐี   4.  หญิงสะใภ้ชื่อนางสุมนเทวี  5.  หลานสาวชื่อวิสาขา   6.ทาสชื่อปุณณะ  จึงเสด็จไปสู่ภัททิยนคร   ประทับอยู่ในชาติยาวัน
เมณฑกเศรษฐีผู้นี้  มีฐานะร่ำรวยมาก   ที่เป็นเช่นนี้  ในพระคัมภีร์กล่าวว่า   เป็นเพราะเมณฑกเศรษฐีได้พบรูปปั้นแพะทองคำ  ประมาณเท่าช้าง  เท่าม้า  และเท่าโคถึก   โผล่ขึ้นมาจากแผ่นดินที่บริเวณหลังบ้าน  ซึ่งกินบริเวณกว้างถึง 8  กรีส  เพราะเหตุนี้เศรษฐีคนนี้จึงมีชื่อว่า เมณฑกเศรษฐี  แปลว่า  เศรษฐีแพะ   ในพระคัมภีร์บรรยายต่อไปว่าว่า  ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าวิปัสสี   เขาได้เคยบริจาคทรัพย์สร้างวัดถวายพระวิปัสสีพระพุทธเจ้า  และถวายสิ่งของต่างๆ  เช่น  ธรรมาสน์ทำด้วยทองคำสำหรับแสดงพระธรรมเทศนา  พร้อมด้วยตั่งทองคำสำหรับก้าวขึ้นสู่ธรรมาสน์เป็นรูปแพะทั้ง 4 ทิศ  เป็นต้น  เมื่อสิ่งก่อสร้างต่างๆในวัดสำเร็จแล้ว  เขาก็ได้กราบทูลอาราธนาพระวิปัสสีพุทธเจ้ามาฉันภัตตาหาร  พร้อมด้วยภิกษุทั้งหลาย   ตลอดเวลา 4  เดือน   ต่อมาในอีกอดีตชาติหนึ่ง  เขาเกิดเป็นเศรษฐีในเมืองพาราณสี   ในกาลครั้งหนึ่ง  ได้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ  ผู้คนอดอยากข้าวปลาอาหาร   ทั่วทุกหนทุกแห่ง  วันหนึ่งเศรษฐีได้ให้คนรับใช้ทำอาหารไว้พอดีสำหรับตนเองและบริวารรับประทาน   ได้มีพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง  ซึ่งเพิ่งออกจากสมาบัติ  มายืนบิณฑบาตอยู่ที่หน้าประตูบ้าน   เขาได้บริจาคอาหารทั้งหมดทั้งในส่วนของตนเองและส่วนของบริวารแด่พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น      เพราะผลแห่งการถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าที่เพิ่งออกจากสมาบัติ  ทำให้หม้อข้าวของเศรษฐี กลับมีข้าวอยู่เต็ม  และยุ้งยางต่างๆที่ว่างเปล่าก็กลับเต็มไปด้วยข้าวเปลือก 

เมื่อเมณฑกเศรษฐี   ได้ทราบข่าวว่า  พระศาสดาเสด็จที่เมืองภัททิยะมาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์  ก็ได้เข้าไปถวายบังคม หลังจากที่ได้ฟังธรรมจากพระศาสดาแล้ว  ท่านพร้อมด้วยบุคคลอื่นรวม 6  คน(ตามที่มีชื่อระบุข้างต้น)  ก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล  และท่านได้กราบทูลพระศาสดาว่า  ในระหว่างทางที่ท่านเดินทางมาเฝ้าพระศาสดานั้น  ท่านได้พบกับพวกเดียรถีย์  และพวกเดียรถีย์เหล่านี้ได้ห้ามปรามมิให้ท่านมา   พระศาสดาจึงตรัสกับท่านเศรษฐีว่า  “คฤหบดี  ขึ้นชื่อว่าสัตว์เหล่าใดย่อมไม่เห็นโทษของตนแม้มาก  ย่อมโปรยโทษของชนเหล่าอื่นแม้ไม่มีอยู่กระทำให้มี  ราวะบุคคลโปรยแกลบลงในที่นั้น ๆ  ฉะนั้น”

จากนั้น   พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท  พระคาถานี้ว่า

สุทสฺสํ  วชฺชมญเญสํ
อตฺตโน  ปน  ทุสฺทสํ
ปเรสํ  หิ  โส  วชฺชานิ
โอปุนาติ  ยถา  ภุสํ
อตฺตโน  ปน  ฉาเทติ
กลึว  กิตวา   สโฐ  ฯ

โทษของบุคคลเหล่าอื่นเห็นง่าย
ฝ่ายโทษของตนเห็นได้ยาก
เพราะว่า  บุคคลนั้น  ย่อมโปรยโทษของบุคคลเหล่าอื่น
เหมือนบุคคลโปรยแกลบ
แต่ว่าย่อมปกปิด(โทษ)ของตน
เหมือนพรานปกปิดร่างกายด้วยเครื่องปกปิดฉะนั้น.

 เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง   ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย  มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.

No comments:
Write comments