เรื่องมาร
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ กุฎีซึ่งตั้งอยู่ในป่าที่ข้างป่าหิมพานต์ ทรงปรารภมาร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อตฺถมฺหิ เป็นต้น
ครั้งหนึ่ง ขณะที่พระศาสดาประทับอยู่ใกล้เทือกเขาหิมาลัย ทรงพบว่า ประชาชนจำนวนมากถูกเบียดเบียนด้วยการลงอาชญา จากกษัตริย์ผู้มิได้ตั้งอยู่ในธรรม ทรงดำริว่า จะเป็นไปได้ไหมที่หากพระองค์เป็นกษัตริย์จะ “ปกครองโดยธรรม ไม่เบียดเบียนเอง ไม่ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ไม่ชนะเอง ไม่ให้ผู้อื่นชนะ ไม่เศร้าโศกเอง ไม่ให้ผู้อื่นเศร้าโศก” มารล่วงรู้ถึงพระดำริของพระศาสดา จึงวางแผนจะชักนำให้พระศาสดาเป็นพระราชาปกครองแผ่นดิน โดยการเสนอแนะวิธีการต่างๆที่สามารถนำมาใช้ในการปกครอง พระศาสดาได้ตรัสกับมารนั้นว่า “มารผู้มีบาป โอวาทของท่านเป็นอย่างหนึ่ง โอวาทของเราก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ท่านและเราปรึกษาธรรมกันไม่ได้ เพราะเราสอนอย่างนี้”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท สามพระคาถานี้ว่า
อตฺถมฺหิ ชาตมฺหิ สุขา สหายา
ตุฏฺฐี สุขา ยา อิตรีตเรน
ปุญฺญํ สุขํ ชีวิตสงฺขยมฺหิ
สพฺพสฺส ทุกขสฺส สุขํ ปหานํ ฯ
สุขา มตฺเตยฺยตา โลเก
อโถ เปตฺเตยฺยตา สุขา
สุขา สามญฺญตา โลเก
อโถ พฺรหฺมญฺญตา สุขา ฯ
สุขํ ยาว ชรา สีลํ
สุขา สทฺธา ปติฏฺฐิตา
สุโข ปญฺญาปฏิลาโภ
ปาปานํ อกรณํ สุขํ ฯ
เมื่อความต้องการเกิดขึ้น
สหายทั้งหลายนำความสุขมาให้
ความยินดีด้วยปัจจัยนอกนี้ๆ(ตามมีตามได้
นำความสุขมาให้
บุญนำความสุขมาให้ในขณะสิ้นชีวิต
การละทุกข์ทั้งปวงได้นำสุขมาให้.
ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่มารดา นำความสุขมาให้ในโลก
อนึ่ง ความเกื้อกูลแก่บิดา นำความสุขมาให้
ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่สมณะ นำความสุขมาให้ ในโลก
อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่พรหม นำความสุขมาให้.
ศีลนำความสุขมาให้ตราบเท่าชรา
ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้ว นำความสุขมาให้
การได้เฉพาะซึ่งปัญญา นำความสุขมาให้
การไม่ทำบาปทั้งหลาย นำความสุขมาให้.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง การตรัสรู้ธรรมได้มีแก่เทวดาเป็นอันมาก.
No comments:
Write comments