เรื่องพระลกุณฏกภัททิยเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระลกุณฏกภัททิยเถระ ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 81 นี้
พระลกุณฏกภัททิยเถระ อยู่ในวัดพระเชตวันร่วมกับภิกษุและสามเณรทั้งหลาย ด้วยเหตุที่พระเถระร่างเตี้ยท่านจึงมีสร้อยชื่อว่า ลกุณฏกะ พระลกุณฏกภัททิยะแม้จะถูกพระภิกษุหรือสามเณรที่เป็นปุถุชนกลั่นแกล้งต่างๆ เช่นมาจับที่ศีรษะบ้าง ที่หูบ้าง ที่จมูกบ้าง พลางกล่าวว่า “น้าจ้ะ น้าจ๋า น้าไม่อยากสึก ยังยินดีแน่วแน่ในพระศาสดาดีอยู่หรือ” ท่านก็ไม่โกรธ ไม่ทำการโต้ตอบพระภิกษุและสามเณรที่มากลั่นแกล้งกระเซ้าเย้าแหย่ท่าน
ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า “ ผู้มีอายุทั้งหลาย พวกท่านจงดูเถิด สหธรรมิกมีสามเณรเป็นต้น เห็นพระลกุณฏกภัททิยเถระแล้ว ย่อมรังแกอย่างนั้นอย่างนี้ ท่านไม่โกรธ ไม่ประทุษร้ายในสหธรรมิกเหล่านั้นเลย”
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว เมื่อทรงทราบคำสนทนานั้นแล้ว ตรัสว่า “อย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาพระขีณาสพ ย่อมไม่โกรธ ไม่ประทุษร้ายเลย เพราะท่านเหล่านั้น ไม่หวั่นไหว ไม่สะเทือน เช่นกับศิลาแท่งทึบ”
จากนั้น พระศาสดาตรัส พระธรรมบท พระคาถาที่ 81 ว่า
เสโล ยถา เอกฆโน
วาเตน น สมีรติ
เอวํ นินฺทาปสํสาสุ
น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตาฯ
ภูเขาศิลาเป็นแท่งเดียว
ไม่สั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด
บัณฑิตก็ไม่หวั่นไหว
เพราะการนินทาและสรรเสริญ ฉันนั้น.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments