เรื่องพระโปฐิลเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถระนามว่าโปฐิละ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า โยคา เว เป็นต้น
พระโปฐิลเถระ ได้ศึกษาเล่าเรียนพระไตรปิฎกจนเชี่ยวชาญ และได้เป็นอาจารย์สั่งสอนธรรมแก่ภิกษุ 500 รูป
เพราะมีความเข้าใจว่าตนรู้พระไตรปิฎกมาก พระโปฐิละจึงมีความทะนงตัวมาก พระศาสดาทรงทราบจุดอ่อนจุดนี้ของพระโปฐิละ และทรงมีพระประสงค์จะแก้ไขให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง ดังนั้น ในทุกครั้งที่พระโปฐิละมาเข้าเฝ้า พระศาสดาก็จะตรัสเรียกพระโปฐิละว่า “พระใบลานเปล่า” เมื่อพระโปฐิละได้ยินพระศาสดาตรัสเรียกเช่นนี้ ก็เกิดความตระหนักว่า ที่พระศาสดาตรัสเรียกเช่นนี้ก็เพราะมีพระประสงค์จะทรงกระตุ้นให้พระโปฐิละมีความเพียรรีบเร่งปฏิบัติพระกัมมัฏฐานจนบรรลุมรรคผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น ท่านจึงเดินทางออกจากวัดพระเชตวันโดยไม่ได้บอกให้ผู้อื่นรู้ ได้ไปที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากวัดพระเชตวันประมาณ 20 โยชน์ ที่วัดแห่งนี้มีภิกษุอยู่ 30 รูป ในเบื้องแรกนั้น พระโปฐิละเข้าไปหาพระเถระที่มีอาวุโสทางพรรษามากที่สุด แล้วขอให้ท่านพระเถระผู้มีอาวุโสทางพรรษามากที่สุดนี้เป็นผู้สอนธรรมแก่ท่าน แต่พระเถระผู้มีอาวุโสมากนั้นต้องการจะให้พระโปฐิละคลายทิฏฐิความดื้อรั้น จึงได้แนะนำให้ไปพบกับพระเถระผู้มีอาวุโสทางพรรษาน้อยกว่ารูปรองๆลงมา และพระเถระอาวุโสรูปรองลงมาก็ได้แนะนำให้ไปพบกับพระเถระอาวุโสรองลงไปเรื่อยๆ จนถึงสามเณรอายุ 7 ขวบ สามเณรรูปนี้ได้รับท่านพระโปฐิลเป็นศิษย์ หลังจากที่ประโปฐิลเถระรับปากว่าจะปฏิบัติตามคำแนะนำของสามเณรอย่างเคร่งครัด เมื่อได้รับคำแนะนำจากสามเณรนั้นแล้ว พระโปฐิลเถระก็ได้ปฏิบัติพระกัมมัฏฐานอย่างคร่ำเคร่งจนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
พระศาสดาทอดพระเนตรเห็นพระโปฐิลเถระด้วยพระจักษุทิพย์ จึงได้ทรงเนรมิตพระกายทิพย์ไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าพระโปฐิละ ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
โยคา เว ชายตี ภูริ
อโยคา ภูริสงฺขโย
เอตํ เทวธาปถํ ญตฺวา
ภวาย วิภวาย จ
ตถตฺถานํ นิเวเสยฺย
ยถา ภูริ ปวฑฺฒติ ฯ
ปัญญาย่อมเกิดจากการประกอบแล
ความสิ้นไปแห่งปัญญา เพราะการไม่ประกอบ
บัณฑิตรู้ทาง 2 แพร่งแห่งความเจริญ
และความเสื่อมนั้นแล้ว
พึงตั้งตนไว้โดยประการที่ปัญญาจะเจริญขึ้นได้รู้.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง พระโปฐิละ บรรลุอรหัตตผล.
No comments:
Write comments