เรื่องอนัตถปุจฉกพราหมณ์
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภอนัตถปุจฉกพราหมณ์ ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 104 และพระคาถาที่ 105 นี้
ครั้งหนึ่ง พราหมณ์ชื่ออนัตถปุจฉกะ ได้มาเฝ้าพระศาสดาทูลถามปัญหาว่า “พระเจ้าข้า พระองค์เห็นจะทรงทราบแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างเดียว คงไม่ทรงทราบสิ่งที่มิใช่ประโยชน์” พระศาสดาตรัสว่า “พราหมณ์ เรารู้ทั้งสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทั้งสิ่งที่มิใช่ประโยชน์” จากนั้นพระองค์ทรงตรัสจำแนกสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ไว้ 6 ประการ คือ 1.การนอนตื่นสาย 2.ความเกียจคร้าน 3.ความดุร้าย 4. การผัดวันประกันพรุ่ง 5. การเดินทางคนเดียว และ6. การเสพสมภรรยาของผู้อื่น
จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสถามพราหมณ์นั้นว่า ประกอบอาชีพอะไร พราหมณ์ตอบว่า ประกอบอาชีพเล่นการพนัน พระศาสดาตรัสถามว่า เวลาเล่นการพนัน แพ้หรือว่าชนะ พราหมณ์ตอบว่า บางครั้งก็แพ้ บางครั้งก็ชนะ พระศาสดาตรัสว่า “การเล่นการพนันชนะไม่ประเสริฐ สู้เอาชนะกิเลสของตนเองไม่ได้ ประเสริฐกว่า”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัส พระธรรมบท พระคาถาที่ 104 และพระคาถา 105 ว่า
อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย
ยา จายํ อิตรา ปชา
อตฺตทนฺตสฺส โปสสฺส
นิจฺจํ สญฺญตจาริโนฯ
เนว เทโว น คนฺธพฺโพ
น มาโร สห พฺรหฺมุนา
ชิตํ อปชิตํ กริยา
ตถารูปสฺส ชนฺตุโนฯ
ตนนั่นแล บุคคลชนะแล้ว ประเสริฐ
ส่วนหมู่สัตว์นอกนี้ บุคคลชนะแล้ว ไม่ประเสริฐ
เพราะเมื่อบุคคลฝึกฝนแล้ว ประพฤติสำรวมเป็นนิตย์
ถึงเทวดา คนธรรพ์ มาร พรหม
ก็มาชิงเอาชัยชนะของเขากลับไปไม่ได้.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments