KEATHADHAMMABOTHTHAI

nousambath855@gmail.com

เรียบเรียงโดย จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ keathadhammaboththai.blogspot.com

อ่านเรื่องในคาถาธรรมบท ๓๐๒ เรื่อง บล็กนี้เรียบเรียงโดย ภิกฺขุ จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ ขออนุโมทนาบุญทุกย่าง ! Email: nousambath855@gmail.com

July 15, 2017

๔.เรื่องโจรผู้ทำลายปม

Posted by   on Pinterest

เรื่องโจรผู้ทำลายปม



พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภพวกโจรผู้ทำลายปม(โจรล้วงกระเป๋า)  ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 63 นี้

ครั้งหนึ่ง โจรผู้ทำลายปม(โจรล้วงกระเป๋า) 2 คน ไปที่พระเชตวันกับอุบาสกอุบาสิกาเพื่อจะฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา  ในโจรล้วงกระเป๋า  2 คนนี้ คนหนึ่งตั้งใจฟังธรรมจนได้บรรลุพระโสดาปัตติผล แต่โจรอีกคนหนึ่งไม่ได้สนใจฟังธรรมแต่มุ่งที่จะล้วงกระเป๋าอย่างเดียว  และก็สามารถล้วงเงินจำนวนหนึ่งไปจากอุบาสกคนหนึ่งได้สำเร็จ  หลังจากจบพระธรรมเทศนาแล้วทั้งสองโจรนั้นก็ได้เดินทางกลับบ้าน โจรคนที่ล้วงกระเป๋าได้สำเร็จนั้นได้นำเงินไปซื้อสิ่งของมาทำอาหารรับประทาน ส่วนโจรคนที่ได้บรรลุพระโสดาบันไม่มีเงินไปซื้อของมาทำอาหารรับประทาน  โจรคนที่ล้วงกระเป๋ามาสำเร็จและภรรยาได้กล่าวเย้ยหยันโจรคนที่เป็นพระโสดาบันว่า “ท่านไม่มีแม้แต่อาหารจะรับประทาน เพราะความฉลาดของท่าน”  เมื่อได้ยินคำเย้ยหยันนี้ โจรคนที่ได้บรรลุพระโสดาปัตติผลรำพึงว่า “เจ้าคนนี้ สำคัญตนว่าเป็นบัณฑิต ด้วยความเป็นพาลเจียวหนอ” จากนั้นได้เดินทางไปเฝ้าพระศาสดาพร้อมกับพวกญาติๆ กราบทูลเรื่องนี้แด่พระศาสดา

พระศาสดา เมื่อจะแสดงธรรมแก่เขา จึงตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 63 ว่า

โย พาโล มญฺญติ พาลยํ
ปณฺฑิโต วาปิ เตน โส
พาโล จะ ปณฺฑิตมานี
ส เว พาโลติ วุจฺจติฯ

คนโง่ รู้สึกตัวว่าเป็นคนโง่
พอจะเป็นคนฉลาดได้บ้าง
เพราะความรู้สึกตัวนั้น
แต่คนโง่ สำคัญตนว่าเป็นคนฉลาดนั้น
เรียกว่าคนโง่แท้.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง มหาชนพร้อมด้วยญาติทั้งหลายของโจรผู้เป็นพระโสดาบัน ได้บรรลุพระโสดาปัตติผล.

No comments:
Write comments