เรื่องสุภัททปริพาชก
พระศาสดา ผทมแล้วบนพระแท่นเป็นที่ปรินิพพาน ในสาลวัน ของเจ้ามัลละทั้งหลาย อันเป็นที่แวะพัก ใกล้พระนครกุสินารา ทรงปรารภปริพาชกชื่อว่า สุภัททะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อากาเสว ปทํ นตฺถิ เป็นต้น
สุภัททปริพพาชกผู้นี้ พำนักอยู่ที่เมืองกุสินารา ในอดีตชาตินั้น เมื่อน้องชายของเขา ถวายทานที่เกี่ยวข้องกับข้าวกล้าในนาถึง 9 ครั้ง แต่เขามัวแต่โอเอ้ไม่ยอมถวายทานในช่วงแรกๆ แต่ได้มาถวายในช่วงท้าย ทำให้ในชาตินี้เขาไม่ได้เข้าเฝ้าพระศาสดาในช่วงปฐมโพธิกาล และมัชฌิมโพธิกาล แต่ได้มาเข้าเฝ้าพระศาสดาในช่วงปัจฉิมโพธิกาล
สุภัททปริพาชก เมื่อได้ข่าวว่าพระศาสดาจะเสด็จดับขันธปริพพาน จึงได้เข้าเฝ้าพระศาสดา กราบทูลถามปัญหา 3 ข้อ คือ 1. รอยเท้าในอากาศ มีหรือไม่ 2. ชื่อว่าสมณะภายนอกแต่พุทธศาสนามีหรือไม่ และ 3. สังขารทั้งหลายชื่อว่าเที่ยง มีหรือไม่
พระศาสดา จึงได้ตรัสพระธรรมบท สองพระคาถานี้ว่า
อากาเสว ปทํ นตฺถิ
สมโณ นตฺถิ พาหิโร
ปปญฺจาภิรตา ปชา
นิปฺปปญฺจา ตถาคตา ฯ
อากาเสว ปทํ นตฺถิ
สมโณ นตฺถิ พาหิโร
สงฺขารา สสฺสตา นตฺถิ
นตฺถิ พุทฺธานมิญฺชิตํ ฯ
รอยเท้าในอากาศนั่นเทียว ไม่มี
สมณะภายนอก ไม่มี
หมู่สัตว์เป็นผู้ยินดียิ่งแล้วในธรรมเครื่องเนิ่นช้า
พระตถาคตทั้งหลาย หาธรรมเครื่องเนิ่นช้ามิได้.
รอยเท้าในอากาศเทียว ไม่มี
สมณะภายนอกไม่มี
สังขารทั้งหลาย ชื่อว่าเที่ยง ไม่มี
กิเลสเครื่องหวั่นไหว ไม่มีแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง สุภัททปริพาชก บรรลุอนาคามิผล พระธรรมเทศนา มีประโยชน์แม้แก่บริษัทผู้มาประชุมกัน.
No comments:
Write comments