เรื่องอุบาสกชื่อจุลกาล
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภอุบาสกชื่อจุลกาล ตรัสพระธรรมเทศฯนี้ว่า “อตฺตนาว กตํ ปาปํ” เป็นต้น
ในวันอุโบสถวันหนึ่ง จุลกาลอุบาสก รักษาศีล 8 หรืออุโบสถศีล ได้เข้าไปค้างแรมในวัดพระเชตวัน และได้ฟังพระธรรมเทศนาตลอดคืน ในตอนเช้า ขณะที่อุบาสกผู้นี้กำลังวักน้ำในสระที่อยู่ไม่ไกลจากวัดพระเชตวันล้างหน้าอยู่นั้น มีพวกโจรที่ไปปล้นบ้านหลังหนึ่งหลบหนีมา และถูกเจ้าของบ้านไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิดจึงโยนสิ่งของที่ปล้นมาไว้ในที่ไม่ไกลจากที่ที่อุบาสกผู้นี้ยืนล้างหน้าอยู่ เมื่อเจ้าของบ้านมาถึงที่จุดนั้นเข้าใจว่าอุบาสกผู้นี้เป็นโจรจึงเข้าไปจับตัวแล้วโบยด้วยแส้ พวกนางกุมภทาสี เดินมาตักน้ำที่สระแห่งนั้น ประสบเหตุนั้นเข้าพอดี จึงเข้าไปห้ามปรามโดยบอกว่าเขาไม่ใช่โจรและให้ปล่อยตัวเขาเสีย อุบาสกเมื่อถูกปล่อยตัวแล้ว ก็เข้าไปในวัดพระเชตวัน แล้วบอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ที่เขารอดชีวิตมาได้ในครั้งนี้ ก็เพราะความช่วยเหลือของนางกุมภทาสี ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้เข้ากราบทูลพระศาสดา และพระศาสดาได้ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย จุลกาลอุบาสก ได้ชีวิตเพราะอาศัยพวกนางกุมภทาสี และความที่ตนไม่ใช่ผู้ทำ ด้วยว่า ธรรมดาสัตว์เหล่านี้ ทำบาปกรรมด้วยตนแล้ว ย่อมเศร้าหมองด้วยตนเอง ในอบายมีนรกเป็นต้น ส่วนสัตว์ทั้งหลายทำกุศลแล้ว ไปสู้สุคติและนิพพาน ย่อมชื่อว่าบริสุทธิ์ได้ด้วยตนเอง”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
อตฺตนา ว กตํ ปาปํ
อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ
สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ
นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย ฯ
บาปอันผู้ใดทำแล้วด้วยตนเอง
ผู้นั้นย่อมเศร้าหมองด้วยตนเอง
บาปอันผู้ใดไม่ทำด้วยตน
ผู้นั้นย่อมบริสุทธิ์ด้วยตนเอง
ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์
เป็นของเฉพาะตน
คนอื่นทำคนอื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง จุลกาลตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่บริษัทผู้ประชุมกัน.
No comments:
Write comments