เรื่องพระสารีบุตรเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตรเถระ ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 95 นี้
ครั้งหนึ่ง พระสารีบุตร เมื่อออกพรรษาแล้ว ใคร่จะหลีกไปสู่ที่จาริก จึงทูลลาพระศาสดา ถวายบังคมแล้วออกไปพร้อมด้วยภิกษุบริวารของตน มีภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งมีความอาฆาตต่อพระเถระ และได้เข้าไปเฝ้าพระศาสดาแล้วได้กราบทูลกล่าวหาพระสารีบุตรเถระว่าดุด่าและทุบตีตน พระศาสดาจึงได้รับสั่งให้พระสารีบุตรมาเฝ้าแล้วตรัสถามในเรื่องนี้ ซึ่งพระสารีบุตรได้กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เป็นไปได้อย่างไรที่ภิกษุผู้พิจารณากายคคาสติอย่างเคร่งครัด จะหลีกไปสู่ที่จาริกโดยที่ไม่ยอมขอโทษหลังจากที่ได้กระทำผิดต่อภิกษุรูปใดรูปหนึ่งแล้ว ? ข้าพระองค์มีจิตเปรียบได้กับแผ่นดิน ซึ่งไม่มีความรู้สึกสุขหรือทุกข์เมื่อบุคคลนำสิ่งของสะอาดหรือของสกปรกทิ้งลงไป ข้าพระองค์มีจิตเปรียบเหมือนผ้าเช็ดธุลี เหมือนเด็กจัณฑาล เหมือนโคอุสภะมีเขาขาด ข้าพระองค์มีความรังเกียจร่างกายว่าไม่มีความสะอาดและก็มิได้ยึดติดในร่างกายนี้อีกต่อไป”
เมื่อพระสารีบุตรเถระกล่าวเช่นนี้ ภิกษุหนุ่มรูปนั้นก็เกิดความร้อนรุ่มในใจ รู้สึกเสียใจ ร้องให้ออกมา และยอมรับว่าตนกล่าวเท็จเกี่ยวกับพระสารีบุตรเถระ จากนั้นพระศาสดาได้ทรงแนะนำให้พระสารีบุตรเถระยอมรับคำขอโทษของพระภิกษุหนุ่มนั้น โดยตรัสว่า “สารีบุตร เธอจงอดโทษต่อโมฆบุรุษนี้เสีย มิฉะนั้นแล้วศีรษะของเขา จักแตกเป็น 7 เสี่ยง” ภิกษุหนุ่มนั้นได้เกิดสำนึกยอมรับว่าตนเป็นฝ่ายทำผิดและได้กราบขออภัย พระเถระก็ได้ยกโทษให้ภิกษุรูปนั้นและยังกล่าวขอโทษพระภิกษุหนุ่มหากท่านได้กระทำความผิดอะไรลงไป
เมื่อภิกษุทั้งหลายได้กล่าวยกย่องพระสารีบุตรเถระ และพระศาสดาได้ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ใครๆไม่อาจให้ความโกรธหรือความประทุษร้าย เกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้เช่นกับสารีบุตรได้ ภิกษุทั้งหลาย จิตของสารีบุตรเช่นกับแผ่นดินใหญ่ เช่นกับเสาเขื่อน และเช่นกับห้วงน้ำใส”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัส พระธรรมบท พระคาถาที่ 95 ว่า
ปฐวีสโม โน วิรุชฺฌติ
อินฺทขีลูปโม ตาทิ สุพฺพโต
รหโทว อเปตกทฺทโม
สํสารา น ภวนฺติ ตาทิโนฯ
ผู้ไม่ยินดียินร้าย ดุจแผ่นดิน
คงที่ ดุจเสาเขื่อน มีวัตรดี
เหมือนทะเลสาบ อันปราศจากเปือกตม
จะไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ภิกษุ 9 พันรูป บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย.
No comments:
Write comments