เรื่องอุบาสกคนใดคนหนึ่ง
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในเมืองอาฬวี ทรงปรารภอุบาสกคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า ชิฆจฺฉา เป็นต้น
ในวันหนึ่ง พระศาสดา ประทับนั่งในพระคันธกุฎี ในพระเชตวัน ทรงตรวจดูสัตวโลกในเวลาใกล้รุ่ง ทรงทอดพระเห็นชายเข็ญใจคนหนึ่ง ในเมืองอาฬวี ทรงทราบถึงภาวะสุกงอมที่จะบรรลุธรรมของชายผู้นี้ จึงได้เสด็จไปที่เมืองอาฬวี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงสาวัตถีราว 30 โยชน์ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์จำนวน 500 รูป และในวันนั้นชายเข็ญใจตั้งใจจะไปฟังธรรมของพระศาสดา แต่เผอิญว่าโคตัวหนึ่งของเขาหายไป เขาจึงเที่ยวตามหาโคก่อนและจะไปฟังธรรมในภายหลัง ในขณะเดียวกันนั้น ก็ได้มีการถวายภัตตาหารแด่พระศาสดาและพระภิกษุสงฆ์อยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองอาฬวี หลังเสร็จสิ้นภัตตกิจของภิกษุสงฆ์แล้ว และประชาชนก็พร้อมที่จะฟังคำอนุโมนาของพระศาสดา แต่พระศาสดายังไม่ทรงกล่าวอนุโมทนา เพราะมีพระประสงค์จะทรงรอคอยชายเข็ญใจผู้นั้น ในที่สุดชายผู้นั้นก็ได้ตามหาจนพบโคที่หายไปนั้น แล้วรีบวิ่งออกมาที่บ้านที่พระศาสดาประทับรออยู่นั้น พระศาสดามีรับสั่งให้จัดอาหารให้ชายเข็ญใจรับประทาน เมื่อชายเข็ญใจนั้นรับประทานอาหารอิ่มแล้ว พระศาสดาจึงได้ทรงแสดงอนุปุพพีกถา และอริยสัจ 4 เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชายเข็ญใจก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล
หลังจากนั้น พระศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ได้เสด็จกลับพระเชตวัน ในระหว่างทาง ภิกษุทั้งหลายได้สนทนากันตั้งเป็นข้อสังเกตที่พระศาสดารับสั่งให้คนจัดอาหารให้ชายเข็ญใจรับประทานจนอิ่มก่อนแล้วจึงทรงแสดงธรรม พระศาสดาทรงทราบความที่ภิกษุทั้งหลายสนทนากันนั้นจึงตรัสว่า พระองค์พร้อมภิกษุสงฆ์เสด็จมาที่เมืองนี้เป็นระยะทางไกลถึง 30 โยชน์ก็เพราะทราบด้วยพระญาณว่าชายเข็ญใจจะได้บรรลุธรรม ชายเข็ญใจหิวมาก เพราะต้องลุกขึ้นแต่เข้า ไปเที่ยวตามหาโค หากพระองค์แสดงธรรมก็จะไม่สามารถเข้าใจและบรรลุธรรมได้ เพราะความทุกข์อันเกิดจากความหิว จึงได้ให้เขารับประทานอาหารก่อน “ภิกษุทั้งหลาย ด้วยว่า ชื่อว่าโรค เช่นกับโรคคือความหิว ไม่มี” พระศาสดาตรัสสรุปท้าย
จากนั้น พระศาสดาจึงได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
ชิฆจฺฉา ปรมา โรคา
สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา
เอตํ ญตฺวา ยถาภูตํ
นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ ฯ
ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง
สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
บัณฑิตทราบเนื้อความนั่นตามความจริงแล้ว
(กระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน)
เพราะพระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments