เรื่องพระสัมมัชชนเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพระสัมมัชชนเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา เป็นต้น
พระสัมมัชชนเถระ ทุกวันๆเสียเวลาทั้งหมดไปกับการกวาดบริเวณวัด ในขณะนั้น พระเรวตเถระได้ไปพักอยู่ในวัดแห่งเดียวกันนั้น แต่พระเรวตเถระไม่เหมือนกับพระสัมมัชชนเถระ โดยพระเถระรูปหลังนี้จะใช้เวลาให้หมดไปกับการปฏิบัติสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน เมื่อพระสัมมัชชนเถระเห็นพฤติกรรมของพระเรวตเถระเป็นเช่นนั้น ก็คิดว่าพระเรวตเถระเป็นพระเกียจคร้าน จึงกล่าวว่า “ท่านฉันอาหารของชาวบ้านที่เขาถวายด้วยศรัทธาแล้ว ก็มัวแต่มานั่งหลับตา ท่านถือไม้กวาดออกกวาดบริเวณวัด จะไม่สมควรกว่าหรือ ?” พระเรวตเถระตอบว่า “คุณ ธรรมดาภิกษุ เที่ยวกวาดอยู่ตลอดเวลาไม่ควร ภิกษุกวาดแต่เช้าตรู่แล้ว เที่ยวบิณฑบาต กลับจากบิณฑบาตแล้ว มานั่งในที่พักกลางคืนหรือที่พักกลางวัน สาธยายอาการ 32 เริ่มตั้งความสิ้นความเสื่อมในอัตภาพแล้ว ลุกขึ้นกวาดในเวลาเย็นจึงควร ภิกษุไม่ควรกวาดตลอดกาลเป็นนิตย์ พึงสร้างโอกาสให้แก่ตนบ้าง” พระสัมมัชชนเถระได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเรวตเถระอย่างเคร่งครัด และในที่สุดก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ เมื่อพวกภิกษุอื่น มาเห็นขยะเกลื่อนกลาดอยู่ในบริเวณวัด ก็ได้เรียนถามพระสัมมมัชชนเถระว่า เพราะเหตุใดท่านจึงไม่เก็บกวาดขยะ ปล่อยให้รกรุงรังอย่างนี้ พระสัมมัชชนเถระตอบว่า “ท่านผู้เจริญ กระผมทำแล้วอย่างนั้น ในเวลาประมาท บัดนี้ กระผมเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว” ภิกษุทั้งหลายเข้าใจว่าพระสัมมัชชนเถระอวดอ้างตนว่าเป็นพระอรหันต์ และได้กราบทูลเรื่องนี้ให้พระศาสดาทรงทราบ แต่พระศาสดาตรัสว่า “อย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย บุตรของเราเที่ยวกวาดอยู่ในเวลาประมาทในก่อน แต่บัดนี้ บุตรของเรายับยั้งอยู่ด้วยความสุขซึ่งเกิดแต่มรรคผล จึงไม่กวาด” เป็นการตรัสบอกว่า พระสัมมัชชนเถระเป็นพระอรหันต์จริงๆ และท่านก็ไม่ได้กล่าวเท็จ
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตวา
ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ
โสมํ โลกํ ปภาเสติ
อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา ฯ
ก็ผู้ใดประมาทในก่อน
ภายหลังไม่ประมาท
ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่างได้
เหมือนดวงจันทร์ พ้นจากเมฆหมอก ฉะนั้น.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments