KEATHADHAMMABOTHTHAI

nousambath855@gmail.com

เรียบเรียงโดย จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ keathadhammaboththai.blogspot.com

อ่านเรื่องในคาถาธรรมบท ๓๐๒ เรื่อง บล็กนี้เรียบเรียงโดย ภิกฺขุ จงฺกมรกฺขิโต นู สมบัติ ขออนุโมทนาบุญทุกย่าง ! Email: nousambath855@gmail.com

July 16, 2017

๕.เรื่องพระสัมมัชชนเถระ

Posted by   on Pinterest

เรื่องพระสัมมัชชนเถระ



พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน  ทรงปรารภพระสัมมัชชนเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  โย  จ  ปุพฺเพ  ปมชฺชิตฺวา  เป็นต้น

พระสัมมัชชนเถระ  ทุกวันๆเสียเวลาทั้งหมดไปกับการกวาดบริเวณวัด  ในขณะนั้น  พระเรวตเถระได้ไปพักอยู่ในวัดแห่งเดียวกันนั้น  แต่พระเรวตเถระไม่เหมือนกับพระสัมมัชชนเถระ  โดยพระเถระรูปหลังนี้จะใช้เวลาให้หมดไปกับการปฏิบัติสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน  เมื่อพระสัมมัชชนเถระเห็นพฤติกรรมของพระเรวตเถระเป็นเช่นนั้น  ก็คิดว่าพระเรวตเถระเป็นพระเกียจคร้าน  จึงกล่าวว่า   “ท่านฉันอาหารของชาวบ้านที่เขาถวายด้วยศรัทธาแล้ว  ก็มัวแต่มานั่งหลับตา  ท่านถือไม้กวาดออกกวาดบริเวณวัด  จะไม่สมควรกว่าหรือ ?”   พระเรวตเถระตอบว่า  “คุณ  ธรรมดาภิกษุ  เที่ยวกวาดอยู่ตลอดเวลาไม่ควร  ภิกษุกวาดแต่เช้าตรู่แล้ว  เที่ยวบิณฑบาต  กลับจากบิณฑบาตแล้ว  มานั่งในที่พักกลางคืนหรือที่พักกลางวัน  สาธยายอาการ  32  เริ่มตั้งความสิ้นความเสื่อมในอัตภาพแล้ว  ลุกขึ้นกวาดในเวลาเย็นจึงควร  ภิกษุไม่ควรกวาดตลอดกาลเป็นนิตย์  พึงสร้างโอกาสให้แก่ตนบ้าง”    พระสัมมัชชนเถระได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเรวตเถระอย่างเคร่งครัด  และในที่สุดก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์    เมื่อพวกภิกษุอื่น มาเห็นขยะเกลื่อนกลาดอยู่ในบริเวณวัด  ก็ได้เรียนถามพระสัมมมัชชนเถระว่า  เพราะเหตุใดท่านจึงไม่เก็บกวาดขยะ  ปล่อยให้รกรุงรังอย่างนี้  พระสัมมัชชนเถระตอบว่า  “ท่านผู้เจริญ  กระผมทำแล้วอย่างนั้น  ในเวลาประมาท  บัดนี้  กระผมเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว”  ภิกษุทั้งหลายเข้าใจว่าพระสัมมัชชนเถระอวดอ้างตนว่าเป็นพระอรหันต์  และได้กราบทูลเรื่องนี้ให้พระศาสดาทรงทราบ  แต่พระศาสดาตรัสว่า  “อย่างนั้น  ภิกษุทั้งหลาย  บุตรของเราเที่ยวกวาดอยู่ในเวลาประมาทในก่อน  แต่บัดนี้  บุตรของเรายับยั้งอยู่ด้วยความสุขซึ่งเกิดแต่มรรคผล  จึงไม่กวาด”  เป็นการตรัสบอกว่า  พระสัมมัชชนเถระเป็นพระอรหันต์จริงๆ  และท่านก็ไม่ได้กล่าวเท็จ

จากนั้น  พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท  พระคาถานี้ว่า

โย  จ  ปุพฺเพ  ปมชฺชิตวา
ปจฺฉา  โส  นปฺปมชฺชติ
โสมํ  โลกํ  ปภาเสติ
อพฺภา  มุตฺโตว  จนฺทิมา  ฯ

ก็ผู้ใดประมาทในก่อน
ภายหลังไม่ประมาท
ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่างได้
เหมือนดวงจันทร์  พ้นจากเมฆหมอก  ฉะนั้น.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง   ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย   มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.

No comments:
Write comments