เรื่องพระโกณฑธานเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระโกณฑธานเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า มาโวจ ผรุสํ กญฺจิ เป็นต้น
ตั้งแต่วันที่พระโกณฑธานเถระอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีรูปสตรีคนหนึ่งติดตามไปกับพระเถระเสมอๆ แต่พระเถระไม่แลเห็นรูปสตรีนั้น มีแต่พวกชาวบ้านและภิกษุอื่นแลเห็น เมื่อพระเถระไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน พวกชาวบ้านเมื่อตักข้าวทัพพีแรกใส่บาตรก็จะพูดว่า ท่านขอรับ ทัพพีแรกนี้ จงเป็นของท่าน เมื่อตักทัพพีที่สองใส่ลงในบาตร ก็จะพูดว่า ทัพพีที่สองนี้ จงเป็นของสำหรับสตรีผู้สหายของท่าน เมื่อพวกภิกษุทั้งหลาย เห็นพระเถระมีผู้หญิงเดินไปด้วยเช่นนั้น ก็พยายามไปปรึกษาท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี และนางวิสาขาเพื่อให้จัดการ แต่ทั้งสองท่านเห็นว่าเป็นเรื่องของสงฆ์ก็ควรให้สงฆ์จัดการกันเอง พระภิกษุทั้งหลายจึงได้ทูลพระเจ้าปเสนทิโกศลให้ทรงดำเนินการขับไล่พระเถระออกไปเสียจากแคว้นของพระองค์ โดยได้ทูลพระราชาว่า “ มหาบพิตร ภิกษุชื่อโกณฑธานะ พาหญิงคนหนึ่งเที่ยวไป จะยังความเสียหายให้เกิดแก่ภิกษุทุกรูป ขอมหาบพิตร ทรงขับไล่ภิกษุนั้นออกจากแว่นแคว้นของพระองค์เสีย” พระราชาพร้อมด้วยข้าราชบริพารจึงได้เสด็จไปที่วัดที่พระโกณฑธานเถระพำนักอยู่นั้นเพื่อทรงสอบสวน เมื่อพระเถระได้ยินเสียงอึกทึกของผู้คน ก็ได้เดินมาที่ประตูกุฏิและก็มีรูปของสตรีมาปรากฏอยู่ไม่ไกลจากพระเถระเหมือนอย่างเคย เมื่อพระเถระได้ทราบว่าพระราชาเสด็จมา จึงไปนั่งที่ห้องเพื่อรอรับเสด็จ พระราชาเสด็จเข้าไปในห้อง ไม่เห็นสตรีอยู่ในห้อง ก็ได้ตรวจดูที่ซอกประตู ที่ให้เตียง ก็ไม่เห็นสตรีนั้น จึงตรัสกับพระเถระว่า ท่านขอรับ โยมเห็นสตรีคนหนึ่งอยู่กับท่าน เธอไปเสียที่ไหน พระเถระตอบว่า อาตมภาพไม่เห็นสตรีที่ว่านั้น “เมื่อกี้โยมแลเห็นอยู่นี่” “แต่อาตมภาพไม่เห็น” เพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น พระราชาได้ขอให้พระเถระออกจากห้อง ไปอยู่ที่หน้ามุข พระองค์ก็ทรงเห็นสตรีนั้นยืนอยู่ข้างหลังพระเถระ และเมื่อพระเถระเดินกลับมาที่ห้อง พระองค์ก็แลเห็นสตรีเดินตามพระเถระเข้ามา แต่พอพระองค์เข้าไปตรวจสอบหาหญิงคนนั้นก็ไม่พบหญิงนั้นแต่อย่างใด พระราชาทรงแน่พระทัยว่ารูปที่คนอื่นแลเห็นกันนั้นเป็นรูปไม่จริง พระเถระยังมีศีลบริสุทธิ์อยู่ ทรงเกรงว่าพระเถระจะเป็นที่รังเกียจของชาวบ้านจนถึงกับไม่ยอมใส่บาตรให้ฉัน จึงได้ทรงอาราธนาพระเถระเข้าไปรับอาหารบิณฑบาตที่พระราชวังของพระองค์เป็นประจำทุกวัน เมื่อภิกษุทั้งหลายได้ยินข่าวนี้ ก็กล่าวในเชิงติเตียนพระราชาว่า “ท่านทั้งหลายจงดูการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระราชาชั่วนั้นเถิด เมื่อพวกเราทูลให้ทรงขับไล่พระโกณฑธานะออกไปเสียจากแว่นแคว้น พระองค์กลับนิมนต์พระรูปนั้นไปรับปัจจัย 4 ที่พระราชวัง” และพวกภิกษุก็ได้กล่าวตำหนิพระโกณฑธานะซึ่งหน้าว่า “เฮ้ย คนทุศีล บัดนี้ พระราชาก็กลายเป็นคนชั่วเหมือนเจ้าเข้าให้แล้ว” พระโกณฑธานะจึงพูดโต้ตอบไปบ้างว่า “พวกท่านนะแหละเป็นผู้ทุศีล พวกท่านนะแหละเป็นคนชั่ว พวกท่านนะแหละไปกับผู้หญิง” พวกภิกษุจึงนำเรื่องที่พระโกณฑธานะพูดตอบโต้ไปกราบทูลพระศาสดา และพระศาสดาได้รับสั่งให้พระโกณฑธานะมาเฝ้า ตรัสถามว่า ได้พูดอย่างนั้นหรือไม่ “ พูดจริงพระเจ้าข้า” “พูดอย่างนั้นทำไม” “พูดเพราะพระเหล่านั้นพูดก่อน” “ท่านทั้งหลาย พูดกับพระโกณฑธานะอย่างนั้นเพราะเหตุใด” “เพราะพวกข้าพระองค์เห็นผู้หญิงเดินตามพระโกณฑธานะ” “ที่พระเหล่านี้เห็นผู้หญิงเดินตามเธอ แต่เธอไม่เห็นหญิงผู้นั้น ก็เพราะผลของกรรมในอดีตชาติของเธอนั่นเอง” เมื่อพวกภิกษุกราบทูลถามถึงอดีตชาติของพระโกณฑธานเถระ พระศาสดาได้ทรงนำมาเล่าว่า พระโกณฑธานะในอดีตชาติเคยเกิดเป็นเทวดาตนหนึ่ง เห็นพระสองรูปมีความสมัครสมานสามัคคีกัน ต้องการกลั่นแกล้งให้เกิดความหวาดระแวงและความแตกแยกระหว่างกัน จึงได้แปลงร่างเป็นผู้หญิงเดินตามหลังภิกษุรูปหนึ่งไป จนทำให้ภิกษุอีกรูปหวาดระแวงว่าภิกษุที่มีรูปผู้หญิงเดินตามนั้นทุศีล พระทั้งสองรูปจึงเกิดการแตกแยกและไม่คบหากันกันอย่างรุนแรง และเพราะกรรมชั่วในอดีตนั้นจึงส่งผลให้พระโกณฑธานะในชาติปัจจุบันมีรูปผู้หญิงเดินตาม เมื่อตรัสบุรพกรรมจบลง พระศาสดาได้ตรัสสอนกพระโกณฑธานะว่า “ภิกษุ เธออาศัยกรรมชั่วนี้ จึงเกิดเรื่องแปลกประหลาดนี้ บัดนี้ การที่เธอถือความเห็นที่ไม่ดีเช่นนี้อีก เป็นการไม่สมควร เธออย่ากล่าวอะไรๆกับภิกษุทั้งหลายอีก จงเป็นผู้ไม่มีเสียง เช่นกังสดาลที่เขาตัดของปากแล้ว เมื่อทำอย่างนั้น จักเป็นผู้ชื้อว่าบรรลุพระนิพพาน”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
มาโวจ ผรุสํ กญฺจิ
วุตฺตา ปฏิวเทยฺยุ ตํ
ทุกฺขา หิ สารมฺภกถา
ปฏิทณฺฑา ผุเสยฺยุ ตํ ฯ
เธออย่าได้กล่าวคำหยาบกะใครๆ
ชนเหล่าอื่นถูกเธอว่าแล้ว จะพึงว่าเธอตอบ
เพราะการกล่าวแข่งขันกันให้เกิดทุกข์
อาชญาตอบพึงถูกต้องเธอ.
สเจ เนเรสิ อตฺตานํ
กํโส อุปหโต ยถา
เอส ปตฺโตสิ นิพฺพานํ
สารมฺโภ เต น วิชฺชติฯ
หากเธออาจยังตนไม่ให้หวั่นไหวได้
ดังกังสดลที่ถูกกำจัดแล้วไซร้
เธอนั่นย่อมเป็นผู้บรรลุพระนิพพาน
การกล่าวแข่งขันกัน ย่อมไม่มีแก่เธอ.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นมาก บรรลุโสดาปัตติผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
แม้พระโกณฑธานเถระ ตั้งอยู่ในพระโอวาทที่พระศาสดาประทานแล้ว ก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล ต่อมาไม่นานนัก ท่านได้เหาะขึ้นไปในอากาศ จับสลากเป็นครั้งแรก.
No comments:
Write comments