เรื่องเจ้าลิจฉวี
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในเมืองเวสาลี ประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ทรงปรารภพวกเจ้าลิจฉวี ตรัสธรรมเทศนานี้ว่า รติยา ชายเต เป็นต้น
ในวันแสดงมหรสพวันหนึ่ง เจ้าลิจฉวี ต่างองค์ต่างประดับด้วยเครื่องประดับไม่เหมือนกัน ดำเนินออกจากเมืองจะเสด็จไปที่อุทยาน พระศาสดา เสด็จเข้าไปบิณฑบาต พร้อมด้วยภิกษุทั้งหลาย ทรงเห็นเจ้าลิจฉวีเหล่านั้น จึงตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงดูพวกเจ้าลิจฉวี พวกที่ไม่เคยเห็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ ก็จงดูเจ้าลิจฉวีเหล่านี้เถิด” แล้วเสด็จเข้าไปในเมือง
พวกเจ้าลิจฉวีเหล่านั้น พาหญิงนครโสเภณีเข้าไปในอุทยานด้วย แล้วเกิดความหึงหวง แย่งยิ่งนางงามนี้ จนเกิดการต่อสู้ ประหัตถ์ประหาร ถึงกับบางคนเลือดตกยางออก ถูกหามออกมาจากอุทยาน สวนทางเข้ากับพระศาสดาและพระภิกษุสงฆ์ที่เพิ่งเสด็จกลับจากบิณฑบาต ภิกษุกราบทูลพระศาสดาว่า “พระเจ้าข้า พวกเจ้าลิจฉวี เมื่อเช้าตรู่ ประดับประดาแล้ว ออกจากพระนครราวะพวกเทวดา บัดนี้ อาศัยหญิงคนหนึ่ง ถึงความพินาศนี้แล้ว” พระศาสดาตรัสว่า “ ภิกษุทั้งหลาย ความโศกก็ดี ภัยก็ดี เมื่อจะเกิด ย่อมอาศัยความยินดีนั่นเองเกิด”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
รติยา ชายเต โสโก
รติยา ชายเต ภยํ
รติยา วิปฺปมุตฺตสฺส
นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ ฯ
ความโศก ย่อมเกิดแต่ความยินดี
ภัยย่อมเกิดแต่ความยินดี
ความโศกย่อมไม่มี แก่ผู้พ้นวิเศษแล้วจากความยินดี
ภัยจักมีแต่ไหน.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
No comments:
Write comments